อาร์เซน่อล 2-0 เบรนท์ฟอร์ด เป็นค่ำคืนที่ผมรู้สึกได้ตั้งแต่ก่อนเริ่มเกมว่าเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมมีความมั่นใจ บางอย่างในอากาศ คล้ายกับว่ากองเชียร์รู้เลยว่าทีมของพวกเขาจะไม่พลาด แม้ เบรนท์ฟอร์ด จะเป็นทีมที่วิ่งสู้ฟัด เล่นหนัก เล่นเร็ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตลอด 90 กว่าช่วงนาทีนั้นสะท้อนว่า “คลาส” ของอาร์เซน่อลกำลังยกระดับขึ้นแบบเป็นขั้นเป็นตอน ผมจะเล่าเกมนี้แบบที่คนดูอยู่ข้างสนามจะเห็นได้ชัดขึ้น เห็นการเคลื่อนไหวที่กล้องถ่ายทอดสดจับไม่ทัน เห็นจังหวะหายใจของนักเตะ เห็นความกดดันฝั่งเบรนท์ฟอร์ดที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเหมือนน้ำที่กำลังถูกต้มจนเดือด
บรรยากาศก่อนเกมและสิ่งที่สัมผัสได้จากสนาม
ก่อนเกมเริ่มประมาณ 25 นาที เสียงปรบมือแบบเป็นจังหวะของแฟนบอลปืนใหญ่เริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ มันไม่ใช่เสียงตะโกนแบบไร้ทิศทาง แต่เป็นเสียงยืนยัน ว่าพวกเขามั่นใจ ทีมกำลังมาถูกทาง ผมเห็นอาร์เตต้ากำลังคุยกับรองสตาฟตรงเส้นข้างสนามด้วยท่าทางนิ่งมาก เขาดูไม่ได้ปรับอะไรใหญ่โตในก่อนเกม เพราะชัดเจนว่ากลยุทธ์สำหรับแมตช์นี้ถูกล็อกไว้แล้ว
ฝั่งเบรนท์ฟอร์ดมีพลังแบบทีมที่มาแบบไม่กลัวใคร เล่นแรง เล่นตรง และมุ่งทำลายจังหวะเกมคู่แข่ง แต่ก็มีความระแวงปนอยู่ เหมือนรู้ว่าถ้าพลาดแค่ครั้งเดียว ทีมตรงข้ามมีวิธีลงโทษที่รุนแรง
อาร์เซน่อล 2-0 เบรนท์ฟอร์ด ประตูแรกที่เปลี่ยนผิวเกม
จังหวะขึ้นนำ 1-0 เป็นหนึ่งในจังหวะที่สวยที่สุดของเกมนี้ และเป็นตัวอย่างของบอลระบบที่อาร์เซน่อลใช้ได้อย่างเฉียบคม ตั้งแต่บอลที่มาดูเอเก้ดึงจังหวะอย่างใจเย็น ปล่อยให้เบรนท์ฟอร์ดเข้าหา และตัดแนวไลน์กองหลังของคู่แข่ง ก่อนที่เบน ไวท์ จะวิ่งสอดไปถึงเส้นหลังแล้วเปิดแบบไม่ต้องคิดซ้ำ
ตรงนี้แหละที่ผมมองเห็นก่อนบอลถึงหัวเมรีโน่ ว่าเขาอ่านสถานการณ์มาก่อนแล้ว เขาถอยหนึ่งก้าวเพื่อหนีตัวประกบ แล้วพุ่งโขกบอลเข้าแบบไม่ต้องใช้แรงมาก ทิศทางสำคัญกว่าแรง ความคมสำคัญกว่าความเร็ว ประตูนี้สะท้อนให้เห็นถึงบอลระบบที่สร้างมาอย่างดี และเป็นช่วงเวลาที่สนามเหมือนสั่นสะเทือนเล็กน้อย
การควบคุมจังหวะเกมของอาร์เซน่อลที่น่าเคารพ
มีหลายช่วงของเกมที่อาร์เซน่อลไม่ได้พยายามเร่งเกมแม้จะมีโอกาสสวนกลับ เพราะรู้ว่าเบรนท์ฟอร์ดชอบบอลเร็ว ชอบเกมที่แลกกันโต้กลับ ทางเดียวที่จะกำราบพวกเขาคือทำให้เกมช้าลง บังคับให้เบรนท์ฟอร์ดต้องยืนดู ยืนไล่บอลแบบเสียแรงเปล่า
ผมเห็นโอเดอการ์ดเป็นตัวกำหนดจังหวะในแดนกลาง เหมือนเมโทรนอมของทีม เขาหยุดเมื่อควรหยุด เร่งเมื่อควรเร่ง และประสานงานกับไรซ์กับซูบีเมนดี้แบบที่ทำให้กลางสนามของเบรนท์ฟอร์ดไม่มีจุดยืนที่ชัดเจน ว่าควรไล่ไปไหน
ขณะเดียวกัน เคลเลเฮอร์ นายด่านเบรนท์ฟอร์ด ก็ต้องชม เขาเป็นหนึ่งในเหตุผลที่สกอร์ไม่ไหลยับ เขาอ่านทางบอลดีมาก ขยับออกมาบังมุมแบบกล้าตัดสินใจ และเซฟสำคัญหลายครั้งที่ทำให้เกมยังเปิดอยู่จนถึงช่วงท้าย
อาร์เซน่อล 2-0 เบรนท์ฟอร์ด ลท้ายเกมที่บอกว่าทีมนี้ ไม่ใช่ทีมลุ้นท็อปโฟร์ แต่เป็นทีมลุ้นแชมป์
เข้าสู่นาที 80 เกมเริ่มมีความกดดันที่มากขึ้น เบรนท์ฟอร์ดเริ่มวิ่งช้าลง แม้จะยังพยายามสู้ แต่ความคมในการเข้าแทคเกิลและการประกบเริ่มลดลง อาร์เซน่อลอ่านทะลุว่าตอนนี้คือเวลาปิดเกม
เมื่อซาก้าถูกส่งลงมา บรรยากาศทั้งสนามเปลี่ยน เขาสร้างแรงกดดันใส่แนวรับฝ่ายตรงข้ามแบบที่คนดูในทีวีอาจไม่เห็น ว่าทุกครั้งที่เขารับบอล เขามีตัวประกบสองตัวเสมอ และการเข้าหาของคู่แข่งเริ่มมีความลังเล
และนั่นนำไปสู่จังหวะสุดท้าย ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาที 90+1 ลูกจ่ายของ เมรีโน่ ยิง1จ่าย1 ให้ซาก้าได้สปีดทะลุไปยิงเต็มข้อ แม้บอลจะโดนมือเคลเลเฮอร์ปัด แต่แรงกระแทกยังมากพอให้บอลข้ามเส้น และในเสี้ยววินาทีนั้น เสียงโกลไลน์ที่ส่งสัญญาณคอนเฟิร์มทำให้ทั้งสนามปลดปล่อยความสะใจออกมา
สิ่งที่ชัยชนะเกมนี้บอกเราเกี่ยวกับอาร์เซน่อล
หลังเกมนี้ ผมรู้สึกว่าทีมของอาร์เตต้าไม่ได้เพียงแค่ชนะ แต่พวกเขาแสดงอำนาจ ในการคุมเกมระดับใหญ่ อาร์เซน่อลตอนนี้ไม่ใช่ทีมที่รอให้คู่แข่งพลาด แต่เป็นทีมที่กำหนดสิ่งที่จะเกิดขึ้นในสนามได้ด้วยตัวเอง
- ความมั่นใจของนักเตะมีแต่เพิ่มขึ้น
- การอ่านเกมในช่วงเวลาสำคัญแม่นยำขึ้น
- การหมุนเวียนตัวผู้เล่นมีประสิทธิภาพ
- ความละเอียดในแท็กติกมากกว่าทีมคู่แข่งชัดเจน
และสังเกตอีกอย่างหนึ่งได้ชัดเจน คือเมื่อเปลี่ยนตัวสำคัญลงมา เช่น ซาก้า หรือเอเซ่ ระดับของเกมจะถูกยกระดับขึ้นแบบเห็นได้ชัด นี่คือสัญญาณของทีมที่กำลังโตเป็นทีมระดับแชมป์อย่างแท้จริง
แถมมีอีกสิ่งหนึ่งที่คนติดตามบอลพรีเมียร์ลีกยุคใหม่มักมีติดตัว คือการเช็กสถิติและบทวิเคราะห์ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่ช่วยเปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้เราเห็น และในช่วงหลังนี้ผมเห็นหลายคนคุยกันในกลุ่มแฟนบอลเกี่ยวกับ ufa365 เวลาพูดถึงข้อมูลและประเด็นต่าง ๆ ของเกมและทีมต่าง ๆ ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งช่วยเพิ่มมิติของการติดตามเกมให้มีอรรถรสมากขึ้น
บทสรุปที่ผมอยากฝากไว้
ชัยชนะ 2-0 ของอาร์เซน่อลเกมนี้ ไม่ได้มีแค่สกอร์ที่สวยงาม แต่มันเป็นข้อความที่ส่งถึงทั้งลีก ว่าในฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อลมาด้วยความนิ่ง มาด้วยความแน่นอน และมาด้วยคุณภาพที่สั่งสมจากหลายปีแห่งการพัฒนา ภายใต้การออกแบบของอาร์เตต้า
เกมนี้ไม่ใช่แค่การเก็บสามแต้ม แต่เป็นการคุมเกมและคุมความมั่นใจ ของทั้งสนาม ตั้งแต่เสียงเชียร์ก่อนเริ่มเกม จนถึงเสียงเฮแบบปลดปล่อยในช่วงทดเวลา นี่คือเกมที่บอกว่าอาร์เซน่อลกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่แฟนบอลควรภูมิใจ และถ้าเส้นทางยังดำเนินต่อไปแบบนี้ การยืนหยัดในกลุ่มทีมลุ้นแชมป์จะไม่ใช่เรื่องเกินเอื้อมเลย